Tuesday, December 13, 2016

คบคนพาล...พาลพาไปหาผิด



คบคนพาล...พาลพาไปหาผิด


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า

พาโล อปริณายโก : คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ

        ณ วันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไปมาก แม้เราจะเรียกตัวเองว่าเป็นสังคมชาวพุทธ แต่เอาเข้าจริง เราก็ไม่ได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาประพฤติปฏิบัติ


        คำว่า คนพาล ในความหมายของพระพุทธองค์คือ คนที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว

        ขอถามสังคมว่า

        - คนที่เนรคุณต่อพระอุปัชฌาย์ ผู้ประทานการบวชแก่ตน

        - คนที่เนรคุณต่อครูบาอาจารย์ที่เคยให้การอุปถัมภ์ค้ำจุน ส่งเสียให้เล่าเรียนจนจบถึงต่างประเทศ

        - คนที่คิดเสี้ยมให้รัฐบาลมาเป็นปฏิปักษ์กับวัดวาอาราม

อย่างนี้จะเรียกว่า คนพาล หรือไม่?


        จากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมทั้งรายการสัมภาษณ์นายแพทย์ท่านหนึ่งที่ออกมาวิเคราะห์เรื่องของวัดพระธรรมกาย ล้วนแสดงให้เห็นถึงแรงอาฆาตพยาบาท บวกโมหจริต คือ ความลุ่มหลงไม่รู้จริง จนสามารถเล่าความเท็จได้เป็นฉาก ๆ แบบไร้ความละอาย และไม่รู้สึกผิด ก็ฟ้องให้เห็นถึงความผิดปกติ ซึ่งผู้เขียนเคยสอบถามจิตแพทย์ประเด็นนี้ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่านี่เป็นอาการของโรคจิตชนิดหนึ่ง ที่พูดโกหกเป็นประจำจนตัวเองคิดว่าเป็นความจริง

        หากลองนึกย้อนหลังไปเมื่อไม่นาน นายแพทย์ท่านนี้ก็เคยบอกว่าศิษย์วัดพระธรรมกายมีการสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ ทั้งที่นั่นคือ เครื่องนับการภาวนาสัมมา อรหัง


        ล่าสุดก็มโนไปอีกว่า เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ "เคลียร์ " หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ซื้อตัวพระผู้ใหญ่ในจังหวัดหมดแล้ว ซึ่งเป็นการดูถูกพระมหาเถระซึ่งท่านผ่านร้อนผ่านหนาว มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เกินที่คนพาลอย่างนายแพทย์ท่านนั้นจะเข้าใจได้ อาเจ็กของผู้เขียนเคยให้ข้อคิดไว้ว่า

        “ ลื้อนะ หากใครก็ตามที่คิดว่าคนซื้อได้ แสดงว่า มันนั่นแหละที่ซื้อได้ ”

        มโนเท่านั้นยังไม่พอ ยังกล้าพูดเท็จแบบหน้าตายว่า การตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาส เป็นเรื่องการกันหลวงพ่อสององค์ออกไปจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะความจริงคือ หลวงพ่อทั้งสององค์ท่านอาพาธ ลูกศิษย์ลูกหาก็อยากให้ท่านได้พักผ่อนรักษาตัว จึงต้องมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการแทน



        ที่มโนจนน่าขันก็คือ การที่บอกว่าหลวงพ่อธัมมชโยมีทรัพย์สิน เพชร พลอยใส่คอนเทนเนอร์ แอบฝังซ่อนไว้จำนวนมาก หากเป็นเช่นนั้นจริง วัดคงไม่ต้องมานั่งรอรับบริจาคแล้ว ตั้งแต่สร้างวัดมา หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็แบกรับภาระในการเลี้ยงดูลูกพระลูกเณร อุบาสก อุบาสิกา และคนงานมาตลอด  
        ซึ่งคนที่แบมือขอจากหลวงพ่อและญาติโยมแบบอดีตพระท่านนั้นคงไม่เข้าใจ เพราะตนเองไม่เคยหาเงินเข้าวัดเลย



        เพราะชีวิตอยู่กับความมโนแบบนี้ จึงทำให้สามารถพูดอะไรก็ได้ที่ตนเข้าใจไปคนเดียวว่า จริง แม้แต่การที่ไปออกรายการต่าง ๆ ดูสีหน้าผู้ดำเนินรายการก็รู้ว่า เขาไม่เชื่อถือ แต่ที่เชิญไปออกเพราะทำให้ขายข่าวได้เท่านั้นเอง


        เมื่อคนชอบมโนไปอยู่กับหน่วยงานของรัฐ คอยเป็นที่ปรึกษา ชี้นำเรื่องต่าง ๆ เลยยิ่งไปกันใหญ่ พลอยทำให้หน่วยงานนั้น ๆ ขาดความน่าเชื่อถือไปด้วย ทั้งยังคอยเสี้ยมให้หน่วยงานต่าง ๆ มองวัดแบบผิด ๆ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรหน่วยงานเหล่านั้นหรือบุคคลนั้น ๆ จะตาสว่าง หันไปดูบ้างว่าสังคมเขามองตนเองว่าอย่างไร มัวแต่คบคนพาลเลยถูกชี้นำเข้ารกเข้าพงไปเรื่อย 


        อย่าลืมภาษิตที่คนโบราณ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราให้ข้อคิดไว้ในโคลงโลกนิตินะครับ

                             ปลาร้าพันห่อด้วย    ใบคา

                            ใบก็เหม็นคาวปลา     คละคลุ้ง

                             คือคนหมู่ไปหา         คบเพื่อน พาลนา

                             
ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง       เฟื่องให้เสียพงศ์










ขอขอบคุณภาพจาก google.com

อนาคาริก

12/13/16








1 comment:

  1. คนเลว คนพาล ทำได้ทุกอย่างแม้แต่การฆ่าพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ ควายทรพีโดยแท้

    ReplyDelete