Thursday, January 12, 2017

จะให้มีเหตุการณ์แบบนี้...อีกกี่ครั้ง



จะให้มีเหตุการณ์แบบนี้...อีกกี่ครั้ง


         วันนี้เป็นวันส่งร่างของน้องมะปิน ผู้เป็นที่รักของพระอาจารย์ ญาติมิตร และเพื่อนฝูง สังเกตได้จากผู้มาร่วมงานศพมีจำนวนมากจนล้นพื้นที่วัดกลาง คลองสาม ที่จอดรถแน่นขนัดจนหาที่จอดได้ยาก


         ผู้เขียนประทับใจคำพูดของคุณแม่น้องมะปินมาก ที่อาศัยการเข้าวัดทำให้เข้าใจเรื่องกรรมและกฎแห่งกรรม จึงไม่คิดอาฆาต พยาบาทกับผู้ที่ทำร้ายลูกชายสุดที่รักจนถึงแก่ชีวิต


         ในมุมมองของผู้เขียน อย่างไรก็ยังมองว่า ความจริงแล้วคนทุกคนเกิดมาล้วนมีพื้นฐานที่ดีติดตัวมา แต่เนื่องจากกำลังบุญที่ต่างกันจึงทำให้ไปเกิดในครอบครัว สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป


         น้องมะปินมีบุญมาก จึงได้ไปเกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม ได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดี ทำให้มีสัมมาทิฏฐิ รู้จักการสั่งสมบุญตั้งแต่ยังเยาว์วัย

 
         ในขณะที่ผู้ร้ายคือ นายตั้ม ไม่มีโอกาสดี ๆ อย่างนั้น จึงตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตรงกันข้าม

         เมื่อผู้เขียนเห็นรายละเอียดชีวิตของเด็กหนุ่มทั้งคู่ ต้องตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ เนื่องจากมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ตรงกัน แต่ต่างกันเหลือเกิน ลองดูตัวอย่างกันสักนิด


         เรื่องราวของน้องมะปินและนายตั้ม เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคม คงมีสิ่งที่เกิดขึ้นอีกมากมายหลายเรื่องที่สังคมไม่สามารถรับรู้ได้

         จะมีใครสักคนในคณะรัฐบาลที่หยุดคิดถึงเรื่องนี้จริง ๆ จัง ๆ หรือไม่ อย่าให้เหตุการณ์นี้ผ่านเลยไป เพียงเพราะไม่ใช่เรื่องของคนในครอบครัวของท่าน

         จงให้เวลา ให้ความสำคัญมาคิดถึงการพัฒนาคน พัฒนาเยาวชนอย่างจริงจัง เพราะคำพูดหรือคำขวัญที่สวยหรู คงไม่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้

         แม้ชาววัดจะทำใจได้ และเข้าใจเรื่องกรรมและกฎแห่งกรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

         ขอให้เรื่องของน้องมะปินเป็นกรณีศึกษา และอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยนะครับ






ขอขอบคุณภาพจาก เพจน้องแสนดี, google.com
อนาคาริก
01/12/17

7 comments:

  1. ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนีอีกเลย ต้องเป็นกัลยานมิตรให้กันและกัน โลกขาดกัลยานมิตรไม่ได้ ต้องชวนกันทำความดี เข้าวัด ทำทาน รัษาศีล เจริญภาวนา (นั่งสมาธิ ให้เเป็นประจำวันทั้งที่บ้านและที่วัด) ศีล และ ปัญญา ต้องคู่กัน ปัญญาในที่นี้หมายถึงเจริญภาวนา นั่งสมาธิ จนกระทั้งเข้าถึงธรรม

    ReplyDelete
  2. ขอให้น้องมะปินไปสู่สุคติค่ะ

    ReplyDelete
  3. พอดีรัฐบาลไม่ค่อยมีเวลาครับ.. ไหนจะต้องนำเต้นแอโรบิก ไหนจะต้องไปเตะฟุตบอล แล้วยังต้องแต่งเพลงอีก ขออภัยจริงๆ

    ReplyDelete
  4. เรื่องของน้องมะปินคงเป็นอุทาหรณ์ที่ดีที่ทำให้ทุกฝ่ายมองเห็นความจำเป็นในการฟื้นฟูศีลธรรมโลกแก่เยาวชนอย่างเร่งด่วน ความดีของน้องจะยังคงอยู่ตราบนิรันดร์ RIP คนดีที่จากไป "วศิณ เหลืองแจ่ม"

    ReplyDelete