ใจของคนขี้ขลาดมิอาจวัดใจของผู้กล้า

ใจของคนขี้ขลาดมิอาจวัดใจของผู้กล้า

 

        เมื่อได้ดูคลิปนี้ครั้งแรก ผู้เขียนรู้สึกทึ่งมาก ทึ่งในความกล้าหาญของผู้พูด เพราะนั่นคือการบอกถึงความรู้สึก(ขี้ขลาด)ของตนเองว่า หากเป็นตนเองแล้วต้องทำอย่างนั้น

        และก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หากหลวงพ่อธัมมชโยไม่มีพระคุณกับพระวัดพระธรรมกาย(ซึ่งไม่รวมถึงคนเนรคุณที่มาอาศัยใบบุญท่าน แล้วกลับมาแว้งกัด)

        เท่าที่ผู้เขียนได้สอบถามความรู้สึกของพระวัดพระธรรมกาย ร้อยทั้งร้อย ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อธัมมชโย คือ ผู้ให้ชีวิตในเส้นทางธรรม ซึ่งมีพระคุณแก่พระทั้งวัด จนไม่รู้จะตอบแทนพระคุณท่านได้อย่างไร

        พระทุกรูป ไม่ใช่คนไร้ปัญญา แต่ยอมสละชีวิตทางโลกเข้ามาสู่เส้นทางธรรม เพราะได้ต้นแบบ ได้แรงบันดาลใจจากหลวงพ่อ เห็นความเสียสละเพื่องานพระพุทธศาสนา เห็นการสร้างบารมีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่าน

        จากพระหนุ่มเพียงหนึ่งรูป นำพาหมูคณะพลิกผืนดินที่เป็นทุ่งนาฟ้าโล่ง ให้กลายมาเป็นวัดพระธรรมกายในปัจจุบันได้ หากไม่ได้ทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันแล้วจะสามารถทำได้หรือ

        จากพระหนุ่มเพียงหนึ่งรูป เป็นต้นแบบจนมีพระหนุ่มอีกหลายพันรูป เข้ามาอุทิศชีวิตให้กับงานพระพุทธศาสนา โดยไม่ใยดีกับชีวิตทางโลกเลย หากท่านไม่ดีจริงแล้วพระหนุ่มเหล่านี้จะสละชีวิตมาเดินตามท่านหรือ

        หลวงพ่อธัมมชโย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เจ้าอาวาสในสายตาของพระวัดพระธรรมกาย แต่ท่านเป็นทั้งครูบาอาจารย์ เป็นเสมือนพ่อที่เลี้ยงดูพระลูกชายได้อย่างดีที่สุดที่ไม่มีใครจะให้ได้

       ในเมื่อหลวงพ่อธัมมชโย เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพระทั้งวัด คิดหรือว่าพระลูกชายของท่านจะปล่อยให้หลวงพ่อของเขาเป็นอันตรายได้

        อย่าว่าแต่จะกระโดดกำแพงเลย หากหลวงพ่ออยู่ที่วัด พระทุกรูปจะไม่มีวันถอยแม้แต่ก้าวเดียว

        อ้อ ลืมไปว่า ถึงผู้เขียนจะพูดอย่างไร บุคคลในคลิปก็คงจะไม่เข้าใจ เพราะพื้นฐานจิตใจ ไม่ได้ประกอบด้วยความกตัญญูอย่างที่พระวัดพระธรรมกายมี



        ใจของคนขี้ขลาด คงเอามาวัดกับใจของคนกล้าไม่ได้ครับ

ขอขอบคุณภาพจาก google.com

อนาคาริก

12/01/16